มีเรื่องซาบซึ้งใจ ที่ลับแล มีคุณยาย อายุ 70 กว่า(คุณยายขอไม่บอกชื่อ) แต่งกลอนฝากขอบคุณมูลนิธิกระจาเงาฯ
และขอให้ กระจกเงาฯ ไปบอกขอบคุณอาสาสมัครทุกคน
น้องคนที่นำบทกลอนนี้มาฝากให้ กระจกเงา ชื่อ “ น้องเจ ” อยู่ร้าน บ้านบนดอย (
[email protected])
คำขอบคุณ จากคนอุตรดิตถ์
โอ้น้ำป่า บ่านอง ทั่วท้องทุ่ง ทุกแควคุ้ง สวนนาไร่ ไม่มีเหลือ
ผลาญชีวิต สูญหาย ตายเป็นเบือ ช่างเหลือเชื่อ เฉียบพลัน เหมือนฝัน
เสียงอึงอื้อ แต่ไกล ใจจะขาด สายฝนสาด ลมกระพือ หรือไฉน
พอสิ้นคำ น้ำหลาก จากพงไพร แรงน้ำไหล กวาดทรัพย์ นับคณา
ทั้งบ้านเรือน ผู้คน หนทางทั่ว น้ำตากลั้ว น้ำฝน ก่นผวา
ไม่ทันได้ ฉวยหยิบ ชั่วพริบตา สายน้ำป่า ไหลหลาก พลัดพรากกัน
มองออกไป สุดตา ฟ้าจรดน้ำ เมื่อใกล้ค่ำ วิปโยค สุดโศกศัลย์
ความมืดมิด คลุมครอบ รอบตัวพลัน น้ำตากลั้น ไม่อยู่ พรูพรั่งพราย
ขอขอบคุณ น้ำใจ ไทยทั่วทิศ เมตตาจิต เปี่ยมพลัง ท่านทั้งหลาย
เมืองลับแล ไม่แลลับ กลับผ่อนคลาย ให้รอดตาย ผ่อนพัก หนักเป็นเบา
กระแสธาร น้ำใจ ไหลหลั่งรด รอดจากอด คลาดตาย คลายทุกข์เศร้า
ผลบุญโชค อำนวย ช่วยบรรเทา ท่านให้เรา ครั้งนี้ ไม่มีเลือน
ขออำนาจ คุณศรี พระไตรรัตน์ ช่วยป้องปัด ทุกข์ภัย ให้ผองเพื่อน
อีกทั้งมวล โรคา อย่าเยี่ยมเยือน เปรียบเสมือน เทพพธู อยู่เบื้องบน
ขอให้พบ ชีวี ที่แสนหวาน จะคิดการ อันใด ให้เป็นผล
ปรารถนา สิ่งใด ได้เยี่ยมยล ขอกุศล ผลบุญ หนุนนำเอย...