หน้าแรก I ติดต่อบางกอกฟอรั่ม I เกี่ยวกับบางกอกฟอรั่ม I  English version   I  Webboard บางกอก
วิถีชีวิตพอเพียงของชาวหนองจอก
โดย ครรชิต จูประพันทธศรี บางกอกฟอรั่ม
 

ลุงประเสริฐ สุขถาวร : เกษตรกรผู้มุ่งมั่นบนฐานแห่งชีวิตพอเพียง

ลุงประเสริฐ สุขถาวร เป็นเกษตรกรวัย 60 ปีเศษ แห่งเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ผู้มุ่งมั่นในการทำเกษตรอินทรีย์ที่สอดคล้องตามหลักศาสนาอิสลาม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ลุงประเสริฐเป็นเกษตรกร ทำนา เลี้ยงปลา มีสวนรอบบ้าน บ้านของลุงประเสริฐมีใต้ถุนสูง ชั้นล่างไว้เก็บของ อาศัยอยู่แบบสบายๆ ขนาดบ้านไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายนัก พื้นที่ของตัวบ้านประมาณ 30 ตร.วาเท่านั้น แต่มีบริเวณบ้านกว้างขวาง พื้นที่หลายไร่ มีที่นา มีบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ 1 บ่อ ลุงประเสริฐมีรายได้จากการขายปลาทับทิมทุกวันให้กับคนทั่วไปที่เข้ามาขอซื้อปลาที่ลุงเลี้ยงไว้

ลุงประเสริฐเคยทำเกษตรกรรมกระแสหลักมาก่อน และเข้าไปอยู่ในวงจรแห่งปัญหาเหมือนคนอื่นๆ คือเมื่อใช้สารเคมีในการเกษตรมากๆ เข้า ดินก็เสื่อมสภาพ ปลาที่เลี้ยงไว้ตายเพราะสารพิษ รายจ่ายสูงมากกว่ารายได้ สุดท้ายก็กลายเป็นหนี้สิน

ผมรู้ว่าเคมีมันเป็นพิษ ช่วงนั้นลำบากมาก ต้องปิดปากปิดจมูก พอสารเคมีมันลงน้ำ ปลาก็ตาย ลูกน้องก็ป่วย ล้ม อ้วกแตกตอนฉีดยา เพราะไม่ปิดปาก ตอนปลายปี 38 ผมมาซื้อที่ดินตรงนี้ 30 ไร่ ทั้งกุ้ง ทั้งปลาเต็มไปหมด เอาสวิงช้อนได้เลย ช่วงนั้นจะเห็นปลาเยอะ พอปี 40 พบว่าระยะหนึ่งคนใช้สารเคมีกันแรงมาก เพราะหอยเชอรี่มันระบาดหนัก ปี 40 พอเขาใส่สารเคมีในนา เราเป็นคนเลี้ยงปลา เห็นปลาตายก็ไม่สบายใจ ในคลองแสนแสบนี่ปลาตายเป็นระลอกๆ

จนในที่สุดลุงประเสริฐก็เลยตั้งคำถามกับแนวทางการเกษตรที่ทำมา ด้วยความที่ลุงประเสริฐยึดมั่นและเคร่งครัดในหลักศาสนาอิสลาม จึงหันมาทบทวนความผิดพลาด และมองว่าสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรานั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นในฐานะที่เป็นเกษตรกรคนหนึ่ง ก็ต้องไม่ไปทำลายสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้ ในที่สุดลุงประเสริฐก็เลยมุ่งมั่นที่จะทำการเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ เพราะไม่ต้องการทำลายสิ่งแวดล้อมที่พระเจ้าสร้างขึ้น

พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้สำหรับสูเจ้า หรือมนุษย์นั่นเอง แล้วถ้าเราคิดว่ามันไม่ใช่ มันเป็นศัตรู ก็ไม่ใช่ พอเรามาดูแล้ว ทุกอย่างมันเป็นประโยชน์หมดเลย อย่างหอยเชอรี่ เราเอามาใช้ทำน้ำหมักชีวภาพ มันก็เป็นประโยชน์กับมนุษย์ แม้แต่แมลงก็แบ่งเป็น 3 ประเภท 1.เป็นมิตร 2.เป็นศัตรู 3.อยู่อาศัยเฉยๆ เราพบว่าฝ่ายที่เป็นมิตรมีมากกว่าฝ่ายที่เป็นศัตรู ตัวห้ำ ตัวเบียน ก็จะคอยควบคุมแมลงศัตรูได้ เพียงแต่ว่าเราต้องปรับระบบให้มันเอื้อต่อแมลงตัวห้ำตัวเบียน

ลุงประเสริฐเห็นว่ามีเศษวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นอยู่มาก จึงเริ่มต้นด้วยการนำเอาเศษพืช เศษผลไม้ จากทั้งสวนของตัวเอง จากบริเวณใกล้เคียงมาทำทำปุ๋ยชีวภาพ และน้ำหมักชีวภาพเพื่อบำรุงดิน และใช้ฉีดเป็นยากำจัดแมลงศัตรูพืชในสวนในไร่นาของตัวเอง โดยการทดลองปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจนได้ผลดี เมื่อลุงประเสริฐปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรมาเป็นเกษตรอินทรีย์แล้ว ก็พบว่าได้ผลผลิตมากขึ้น สภาพดินสภาพน้ำดีขึ้น สิ่งแวดล้อมที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาก็ได้รับการฟื้นฟู รายจ่ายที่เคยหมดไปอย่างสิ้นเปลืองกับค่าสารเคมีเกษตรก็ลดน้อยลง

นอกจากนี้แล้ว ในเรื่องของระบบนิเวศของธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ทำการเกษตรก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลุงประเสริฐให้ความสำคัญมาก

ที่นี่ห้ามเด็กเอาหนังสะติ๊กเข้ามา ถ้าใครฝ่าฝืนก็จะยึดเลย ห้ามคล้องกิ้งก่าด้วย ที่ทำแบบนี้ก็เพราะระบบมันสมดุลแล้ว ตอนที่ฉีดยา มันไม่มีนก แต่พอเลิกฉีดยา นกก็กลับมา นกทำหน้าที่แทนเรา เช้าๆ นกกระจิบจะมากินหนอน นกไม่ได้มาทำร้ายเราเลย มันเป็นเพื่อนเรา เราไม่ได้อยู่คนเดียว เวลากลางคืนก็ใช้เปลือกมะพร้าวแข็งๆ เอาเสียบไว้รอบๆ คันนา ให้สูงจากข้าว 50 เซนติเมตร กลางคืนนกเค้าแมวจะมาเกาะ มาสังเกตดูว่าหนูอยู่ตรงไหน มันก็จะมากินหนู”

ลุงประเสริฐทดลองและประยุกต์การทำเกษตรอินทรีย์จนเห็นผลสำเร็จ และได้เผยแพร่ความรู้ที่ตนเองมีไปสู่เพื่อนบ้าน จนในที่สุดลุงประเสริฐได้รับการยกย่องให้เป็นครูภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นวิทยากรไปบรรยายตามที่ต่างๆนอกจากนี้ยังนำไปสู่การเกิดขึ้นของชมรมเกษตรธรรมชาติ ที่เป็นเครือข่ายชาวบ้านที่ทำเกษตรอินทรีย์ในเขตหนองจอกและพื้นที่ใกล้เคียง

ลุงประเสริฐไม่ใช่คนจน ไม่ใช่คนขัดสน ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เป็นคนที่อยู่กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมอย่างพอเพียง ใช้หลักศาสนาอิสลามและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือพึ่งตนเอง ลดการพึ่งพาสารเคมีซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก ทำหน้าที่การงานโดยเลือกสิ่งที่พอเหมาะพอประมาณ ลุงประเสริฐ ผ่านการเข้ารับการอบรม ทดลอง ค้นคว้า และเรียนรู้ด้วยตนเองจนเกิดเป็นความรู้ความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น แล้วยังเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนบ้านและเกษตรกรผู้สนใจทั่วไปด้วยจิตอาสาที่จะช่วยเหลือผู้อื่น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความเป็นทาส ให้มีความเป็นไทย และสามารถพึ่งตนเองได้
Copyright@ 2006 Bangkok Forum
บางกอกฟอรั่ม เลขที่ 104, 106 ถ.แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร. 02-228-1362-3 และ 02-622-2316โทรสาร 02-228-1362 หรือ www.bangkokforum.net หรือ [email protected]