หน้าแรก I ติดต่อบางกอกฟอรั่ม I เกี่ยวกับบางกอกฟอรั่ม I  English version   I  Webboard บางกอก

สรุปเนื้อหาบางส่วนที่ได้จากเวทีสุนทรียสนทนา
(ไดอาล็อค)
ณ โรงเรียนอิสลามลำไทร ชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวา
แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก

 

“ผมมีหน้าที่แก้ปัญหา เตรียมเสนอปัญหา เพราะไม่มีใครพูดถึง แม้แต่ผู้บริหารเขตที่เข้ามาก็ไม่เคยพูดถึงปัญหา มาแล้วก็ไป ปัญหาความเป็นความตายของคนหนองจอกไม่เคยพูดถึง” (คุณปรีชา เอี่ยมอิทธิพล)

“เราไปคุยที่รองผู้ว่ามาเปิด อยู่เต็มไปหมดเลย หายไปหมดเลยเหลือแต่ตัวหัวหายหมด ใช่ไหม  ผมว่า ผอ.ไปไหน ไม่ได้ให้เกียรติพวกเราเลยหรือ  ไม่ได้ให้เกียรติ พวกเรามานั่งไม่ได้อะไรเลยนะ มานั่งฟังจนกระทั่งเย็น เรื่องถึง ผอ.ว่าอย่างไร นี่คือราชการ  ผมยังมาถามหาผู้ช่วยผู้ว่า รองผู้ว่าที่มางานเรื่องไข้หวัดนกที่ศูนย์ฝึก ผู้ช่วยงงเลย แสดงว่าไม่ได้มีวิญญาณ ไม่รู้มาเพราะอะไร พวกเราแห่กันมาเต็มห้องประชุม นี่คือราชการ เพราะว่าการพึ่งตนเอง  พวกเราไม่รู้จะพึ่งกันอย่างไรอยู่แล้ว  ถามข้าราชการว่าพึ่งตนเองหรือเปล่า พอเพียง หรือเปล่า ไม่พอหรอก” (คุณโนรี แพฝึกฝน)

นอกจากประเด็นด้านการเกษตรแล้ว ยังมีปัญหาเด็กและเยาวชนในเขตหนองจอกนั้น ก็เริ่มเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นมา และทำให้ประชาชนทั่วไปรู้สึกหวาดกลัว และทำให้เกิดสภาพเมืองที่ไม่น่าอยู่ในเขตหนองจอก

“มีคืนหนึ่งกลับมาประมาณ 3 ทุ่มครึ่งเกือบเส้นหนองจอกนี้จะมีกลุ่มวัยรุ่นหนองจอกที่แข่งรถมอเตอร์ไซค์ ถ้าใครอยู่ด้านนี้จะรู้สึก ไม่เคยเห็นอยู่ลาดกระบังไม่เห็นเลย  ขับรถมากับลูกชายอายุ 12 ขวบ ลูกชายตกใจ เราก็ไม่รู้ทำอย่างไรก็ขับไปเรื่อย ๆ เขาย้อนศรมาหาทางเรา เราก็ตกใจมาก เราเป็นผู้หญิงขับรถมา ก็ตกใจ ถึงได้บอกว่าประชาชนกลุ่มวัยรุ่นพวกนี้ถ้าอาจารย์หรือว่าพี่ ๆ น้อง ๆ คุณอา คุณลุงที่นี่เราจะทำอย่างไรกับกับกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกหลานของเราถ้าเราปลูกฝังบุคคลากรที่นี่ทุกท่านเป็นแม่แบบที่ดีอยู่แล้ว แต่ทำไมเขาไม่มองแม่แบบอย่างพวกเรา ซึ่งเราไม่ได้ทำเรื่องที่ผิด  ทำไมเขาไม่หันมาหามองเราบ้าง  ทำไมเวลา 1-2 ทุ่ม เขาควรเข้าบ้านได้แล้ว แต่ทำไมเขาถึงมาจับกลุ่ม  อันนั้น อาจจะเป็นลูกหลานเรา เราน่าจะมองเขา  แต่เราไม่รู้จะแก้ไขเขาอย่างไร ซึ่งเราเป็นผู้หญิง  จะเข้าไปหาเขาก็ไม่กล้ากลัวเขาจะทำร้ายเรา” (คุณจงกลณี)

“ตอนนี้ก็หนักใจเรื่องยาบ้า ยาเสพติด รู้สึกจะมีมากขึ้น เรื่องโจร ขโมยเล็กน้อย หมู่บ้านอื่นมีเรื่องมิเตอร์น้ำหายไหม พวกขโมยมิเตอร์น้ำหมู่บ้านนี้ประมาณ 20 หลังคาเรือนที่โดนพวกขโมยมิเตอร์น้ำไป หนักใจเรื่องนี้มาก” (คุณจันทร์เพ็ญ)

สำหรับทางออกในการแก้ไขปัญหานั้น ผู้เข้าร่วมสนทนาได้กล่าวไว้หลายท่าน
การพูดคุยในวงดังกล่าว ได้มีการกล่าวถึงทางออกทางการเกษตร โดยมีผู้ที่ทำการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่ผลิต จนถึงแปรรูปในระดับครัวเรือน และสร้างตลาดขึ้นมาเอง ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง

“ถ้าไปส่งขายให้พ่อค้าคนกลางคุณมีโอกาสเจ๊ง มีโอกาสกำไรบ้าง แต่มีโอกาสเจ๊งมากกว่า ไม่ว่าจะไก่เนื้อ ไก่ไข่ คุณต้องทำครบวงจร ต่อไปในอนาคตอันใกล้ผมทำคนเดียวทั้งหมด ตลาดผมก็ทำด้วย ขณะนี้ผมเปิดร้านค้าเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายทำให้ครบวงจร ไม่ใช่ไปจำหน่ายเป็นของสดอย่างเดียว ขายของสดและทำอาหารขายด้วยเพื่อครบวงจร พอของค้างแล้วเอาไปทำอาหาร ครบวงจร” และ “ถ้าไม่มีตลาดคุณอย่าไปทำคุณอย่าไปหวังพึ่งคนกลาง เจ๊งทันที” (คุณปรีชา เอี่ยมอิทธิพล)

นอกจากนี้ยังมีผู้ที่กล่าวถึง “หญ้าอาราฟั้น” ซึ่งเป็นหญ้าเลี้ยงสัตว์ชนิดหนึ่งที่ให้โปรตีนสูง และมีการสนับสนุนให้มีการปลูกหญ้าชนิดนี้มากขึ้น เพื่อนำมาเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ และน่าจะมีการสร้างอาชีพเลี้ยงสัตว์ขึ้นมาให้มากพอ แล้วแปรรูปเพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล

“พบไปพบหญ้าอย่างหนึ่งชื่ออาราฟั้น ผมนำเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านของผม ในภาคกลางยังไม่มีใครเป็นคนนำเข้ามาเพราะผมได้ไปทำงานอยู่ที่นราธิวาส 5 ปี ได้ร่วมกับเพื่อนมีที่อยู่ประมาณ  400 กว่าไร่  ได้เอาหญ้าอาราฟั้นไปปลูกที่นราธิวาส ก็ได้ผลดีมาก มีความหวาน มีไฟเบอร์ในกระบวนหญ้าต่าง ๆ  หญ้าตัวนี้เก็บไว้ได้ประมาณ 5 เดือน เมื่อเรามาแปรรูปแล้ว มาเข้าเครื่องหั่นเล็ก ๆ เหมาะสมกับภาคเกษตรของเรา เขตหนองจอกมีภาคเกษตรกันมาก ทุกวันนี้เห็นกันมากคือการเลี้ยงวัว การเลี้ยงแพะ  ไม่มีหญ้าที่จะให้ไปซื้อฟาง ก็คือเอาฟางแห้งมา โปรตีนไม่มีจะต้องใส่พวกสารน้ำตาล....   และใครที่มีที่ดินก็ได้ปลูกหญ้าตรงนี้ขึ้นมา และไปให้พวกวัว พวกสัตว์ต่าง ๆ ได้ กินกัน ถ้าเราเลี้ยงวัวเลี้ยงแพะ ถ้าเราไม่มีหญ้าตรงนี้ขึ้นมา  ต้นทุนก็สูงมาก” (คุณสมัย สุขัปปภา)

“เห็นว่าควรสนับสนุนในด้านการปลูกหญ้า ให้เยอะ เพราะว่าวัวเราเลี้ยงข้างบนใช้พื้นที่ไม่เยอะ แต่แหล่งปลูกหญ้าเราสามารถใช้ได้ทั้งหญ้าที่อยู่ข้างล่างก็ได้ที่ต่ำก็ได้ที่สูงก็ได้ การสร้างฐานรากที่มั่นคงที่เราจะสร้างอาชีพเกี่ยวกับเลี้ยงสัตว์ขึ้นมาเราเลี้ยงเยอะ มีประมาณมากที่เพียงพอเราสามารถที่จะเอามาแปรรูปสร้างผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล และส่งออกน่าจะมีความเป็นไปได้ด้วยซ้ำ ผมก็ร่วมกับหลาย ๆ คนด้วยกัน  ก็สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการปลูกหญ้ากันเยอะ ๆ” (ลุงประเสิรฐ สุขถาวร)

มีการพูดคุยถึงการปรับเปลี่ยนวางแผนตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่จะเกิดขึ้น เช่น เรื่องข้าวที่ควรจะต้องเปลี่ยนชนิดพันธุ์ที่ใช้เพาะปลูก

“โดยเฉพาะเรื่องทำนาข้าว ก็ต้องปรับเปลี่ยนที่เคยทำนาข้าวเตี้ยในช่วงฤดูน้ำหลากก็ต้องเปลี่ยนเป็น ข้าวชนิดที่เป็นข้าวสูงในช่วงฤดูน้ำหลาก เพื่อให้ปลอดภัยจากน้ำท่วม คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องมีการเสวนากันใหญ่ในพื้นที่เพื่อให้พื้นที่ทุกคนได้เตรียมความพร้อมไว้เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนกับการเปลี่ยนแปลงในด้านกายภาพของพื้นที่หนองจอกกรุงเทพฯแห่งนี้”
(ลุงประเสริฐ สุขถาวร)

ทางออกสำหรับปัญหาในเขตหนองจอกนั้น ทางหนึ่งก็คือการชูเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”ขึ้นมาเป็นธงในการทำงาน

“ประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีคนรู้จักคนหนองจอกมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง   ตอนนี้จะมีคนเข้ามาถามหาบ่อย ครั้ง ก็เพราะความเข้าใจว่าเศรษฐกิจพอเพียงคือบ้านนอก และก็ส่งออกมาหาหนองจอก ตรงนี้เป็นงานชิ้นสำคัญของพวกเราที่เราจะทำงานตรงนี้ในความห่างไกลจากเมือง เรากำลังจะทำเมืองนี้ให้เป็นเมือง น่าอยู่ ของชาวกรุงเทพฯ เราจะเอาสิ่งที่เขาทอดทิ้งมาเป็นสิ่งสวยงามเรากำลังจะสร้างความฝันว่า ถ้าใครมาอยู่หนองจอกแล้วไม่อยากกลับ ตอนนี้ก็มีคนหลายคนแล้วที่ไม่กลับเริ่มมีความผูกพัน บางกอกฟอรั่มก็ผูกพัน  ที่ว่าต่อไปหนองจอกคงจะเป็นเมืองที่เราจะสานฝันร่วมกัน เรามีเมืองเกษตรเรามีพื้นที่เกษตรแต่เขตอื่นไม่มีหรือมีน้อย เราก็พบตรงนี้เราจะเอามาเป็นงาน เป็นสังคม อยู่บนฐานเกษตรที่พอเพียง” (อ.สมชาย สมานตระกูล)
 
Copyright@ 2006 Bangkok Forum
บางกอกฟอรั่ม เลขที่ 104, 106 ถ.แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร. 02-228-1362-3 โทรสาร 02-228-1362 หรือ www.bangkokforum.net หรือ [email protected]