หน้าแรก I ติดต่อบางกอกฟอรั่ม I เกี่ยวกับบางกอกฟอรั่ม I  English version   I  Webboard บางกอก

สรุปเนื้อหาบางส่วนที่ได้จากเวทีสุนทรียสนทนา
(ไดอาล็อค)
ณ โรงเรียนอิสลามลำไทร ชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวา
แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก

 

วงสนทนาแบบไดอาล็อค หรือที่มีผู้เรียกเป็นคำไทยว่า สุนทรียสนทนา ได้ถูกนำมาใช้ในกระบวนการทำงานของบางกอกฟอรั่มในพื้นที่เขตทวีวัฒนา และเขตหนองจอก นับจากเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549 โดยครั้งนี้ ได้มีผู้เข้าร่วมจำนวน 30 ท่าน มีการเชิญบุคคลต่างๆ ในเขตหนองจอกเข้าร่วม ประกอบไปด้วย สมาชิกชมรมเกษตรธรรมชาติ ผู้ผลิตสินค้า OTOP และสินค้าชุมชน ผู้รู้ ครูภูมิปัญญาไทย แกนนำชุมชนหลายท่าน โดยมีแกนนำจากชมรมรักถิ่นเขตทวีวัฒนาจำนวนหนึ่งเข้าร่วมด้วย

การสนทนาแบบไดอาล็อคในครั้งนี้ มี อ.โอภาส ปัญญา และ อ.โสฬส ศิริไสย์ จาก มหาวิทยาลัยมหิดลมาเป็นวิทยากรกระบวนการสำหรับการพูดคุย

“ เรามาคุยกันดู และก็อย่างที่บอกไว้แล้วขอให้เรากำลังสร้างวัฒนธรรมอีกอันหนึ่งอาจจะเรียกว่าวัฒนธรรมที่สร้างความรู้จักแผ่นดิน คือเราจะเอาความรู้จักประสบการณ์ในตัวเรา ยังไม่ต้องเอาจากที่อื่นเท่าไร เราอาจจะเอามา ฟัง ๆ ไว้เฉย ๆ  แต่ความรู้ที่จะได้ให้มากจากข้างใดลึก ๆ  หรือจะได้จากการฟังคนอื่น ๆ อันนี้เป็นทักษะที่อาจจะแตกต่างความคุ้นชินที่เราเคยมีอาจจะมีเจ้าหน้าที่หรือคนอื่นมาบอก มีอาจารย์มาบอกหรือมีคนที่ผู้เชี่ยวชาญมาบอก แต่ตอนนี้เราจะเรียนรู้จากกันก่อน และค่อย ๆ สร้างความรู้มาจากตัวตนของเราเอง  จะได้รู้ว่าตัวที่แท้จริงของเราเป็นใคร ขอให้พูดออกมาจากความจริงใจ และก็ในบรรยากาศที่สบาย  ๆ ถือว่าเรากำลังคบกันอยู่ในพี่น้องเรา เพื่อจะได้แลกเปลี่ยน ที่เรียกว่าความรู้มาจากแนวระนาบ ไม่ใช่ความรู้ที่มาจากฟ้าเป็นความรู้ที่มาจากแผ่นดิน หมายความว่าในแต่ละคนมีประสบการณ์”     (อ.โอภาส ปัญญา)

ผู้เข้าสนทนาได้กล่าวถึงสภาพปัญหาที่เจอในเขตหนองจอก ซึ่งประกอบไปด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ปัญหาเด็กและเยาวชน ปัญหาจากภาครัฐที่ไม่ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของประชาชน ฯลฯ
เริ่มจากปัญหาความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่มีผลกระทบต่ออาชีพเกษตรกรซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนหนองจอก

“พื้นที่การเกษตรเริ่มเปลี่ยน ในด้านกายภาพเริ่มเปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากมีเขตล้อมไม่ให้น้ำเข้าไปในเขตเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ  และยังมีสนามบินที่บล็อกน้ำไม่ให้ไหลลงทะเลอีก แค่นั้นไม่พอสนามกอล์ฟที่หนองจอกสร้างประมาณ 4 สนาม แต่ละสนามนี่ใช้พื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ และหมู่บ้านกำลังเกิดขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งหมู่บ้านเอื้ออาทรมีอยู่ประมาณ  4 แห่ง ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นเขตกรุงเทพฯ เขาก็ไม่ให้น้ำท่วม  ไม่ให้น้ำเข้าไป ให้อยู่หนองจอก สนามบินเขาก็ไม่ให้ท่วม... ส่วนสนามกอล์ฟไหนที่ให้น้ำท่วม เขาก็สูบออกมาไม่มีหมู่บ้านไหน ที่มาก่อสร้างแล้วปล่อยให้น้ำท่วม สิ่งที่แย่ที่สุดคือพี่น้องเกษตรกรของหนองจอกของเราที่การเกษตรมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าว  ที่นี่จะเป็นนาข้าวแห่งสุดท้ายของกรุงเทพฯที่มีอยู่ที่หนองจอกนี้ มีมากถึงประมาณ 6 หมื่นไร่  ปีนี้ประสบกับน้ำท่วมเนื่องจากพื้นที่อื่น ๆเขาถมสูงหมด  พื้นที่นาข้าวจึงเป็นแหล่งที่รับน้ำ เพราะฉะนั้นฝนตกมากเมื่อไรน้ำจะท่วมครับ” (ลุงประเสริฐ สุขถาวร)

“คนหนองจอกเดิมจะอยู่ได้คือการเกษตร และปัญหาที่จะทำให้การเกษตรล้มเหลวหรือทำให้หนองจอกตายคือน้ำเสีย การเกษตรถ้าไม่มีน้ำตายลูกเดียว ทุกอย่างต้องอาศัยน้ำ น้ำคือปัจจัยอันดับหนึ่งของการเกษตร คุณจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ดำรงชีวิตอุปโภคบริโภคใต้น้ำทั้งนั้น แต่ ถ้าน้ำเสียคุณจบ แต่ปัจจุบันน้ำกำลังจะเสียในอนาคต จะรุนแรง ขณะนี้ใกล้จะเสียแล้ว ใกล้หน้าแล้ง” (คุณปรีชา เอี่ยมอิทธิพล)

ซึ่งปัญหาด้านการเกษตรนั้น ล้วนมีข้อจำกัดในหลายประการ อาทิ การไม่สามารถพึ่งพิงเจ้าหน้าที่รัฐ ให้เข้ามาช่วยเหลือ ดัง คำพูดของคุณปรีชา เอี่ยมอิทธิพล ที่ว่า

“ไก่เป็นโลกนิวคาสเซิลคุณต้องแก้ปัญหาให้ได้ ถ้าแก้ไม่ได้ ชาวบ้านแก้ไม่ได้คุณไปส่งเสริม เจอปัญหาตาย รอปศุสัตว์กว่าจะมาและรอระบบ ผลประโยชน์กว่าจะมาต้องซื้อยาต้องอะไรต่ออะไร ต้องจ่ายค่าอะไรกว่าจะถึง วัวอีกกว่าจะผสมพันธุ์ได้ ไปเอาเจ้าหน้าที่ผสมเทียมกว่าจะมาได้ดึก ๆ ดื่น ๆ พลาดไปแล้วอีกรอบหนึ่งกว่าจะผสมได้อีก มาก็ต้องจ่ายตังค์ยุ่งยากหมด” (คุณปรีชา เอี่ยมอิทธิพล)

นอกจากนี้แล้วยังมีปัญหาการคอรัปชั่นของหน่วยงานราชการที่เกิดขึ้นจากการเอื้ออำนวยให้เกิดการฝ่าฝืนกฎหมายด้วย โดยสุดท้ายแล้วก็เกิดผลกระทบต่อเกษตรกร

“กำหนดเป็นพื้นที่สีเขียว ถูกจำกัดโดยสิทธิต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะเกษตรกร หมู่บ้านจัดสรรเกิดไม่ได้ แต่เกิดขึ้นได้ โดยใช้กฎหมาย ที่คลุมไม่ถึง บ่อน้ำเสียก็ไม่มี น้ำก็เลยเสีย คนตายคือเกษตรกร  เพราะใช้น้ำประปาน้ำบาดาล แต่เกษตรใช้น้ำบาดาลเลี้ยงปลาได้ไหม ใช้น้ำบาดาลเลี้ยงปลาได้ไหม ก็ไม่ได้ ใช่ไหม ผมเสนอไป นี่คือตัวอย่างกฎหมายปลูกสร้าง อาคาร พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จะปลูกสร้างโรงเลี้ยงสัตว์ไม่ได้นะ อยากเย็นเข็นใจ เขาบอกว่าได้ ผมบอกว่าไม่ได้หรอก ผมขอมาแล้ว จะสร้างโรงอุตสาหกรรมที่จะแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ก็ไม่ได้ โรงฆ่าสัตว์ก็ไม่ได้ โรงแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรก็ไม่ได้ พื้นที่สีเขียว เพราะฉะนั้นกฎหมายมาใช้ในเขตหนองจอกไม่ได้ ก็เป็นโอกาสของใคร ของเจ้าหน้าที่ เทศกิจ สิ่งแวดล้อม โยธา ก็เกิดขึ้น  เวลานี้ทุกคนทำผิดกฎหมายในหนองจอก เกษตรกรทำผิดกฎหมาย ทำกรงไก่ก็ผิดกฎหมาย โรงฆ่าไก่ก็ผิดกฎหมาย โรงฆ่าวัวควายก็ผิดกฎหมาย แต่อยู่ได้ คุณเห็นไหม  ปลูกสร้างอาคารบางคนไม่ขออนุญาต แต่ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ส่วนคนข้างหลังเดือดร้อนไหม สิ่งเหล่านี้ผมเสนอไป ว่าท่านต้องแก้ ทำอย่างไรโรงฆ่าสัตว์จะแก้ได้ โรงแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเพราะทำเกษตรแล้ว คุณเป็นพื้นที่สีเขียวเขาต้องการทำการเกษตร ทำอย่างอื่นไม่ได้ คุณต้องแก้กฎหมายให้ถูกต้องตามกฎหมายไม่ให้เจ้าหน้าที่มารีดไถ่ ตลอดเวลาอย่างนี้” (คุณปรีชา เอี่ยมอิทธิพล)

ในส่วนของปัญหาที่เกิดจากภาครัฐส่วนท้องถิ่นนั้น พบว่าถึงแม้จะมีการนำเสนอปัญหาไปแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบระดับผู้บริหารก็ไม่สนใจที่จะเข้ามาแก้ไข

 
Copyright@ 2006 Bangkok Forum
บางกอกฟอรั่ม เลขที่ 104, 106 ถ.แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร. 02-228-1362-3 โทรสาร 02-228-1362 หรือ www.bangkokforum.net หรือ [email protected]