หน้าแรก I ติดต่อบางกอกฟอรั่ม I เกี่ยวกับบางกอกฟอรั่ม I  English version   I  Webboard บางกอก
เรียนรู้การทำนาข้าวอินทรีย์ เพื่อชาวนาในกรุงเทพ
โดย ครรชิต จูประพัทธศรี
 

น้ำหมักชีวภาพที่ทำไปแล้ว 10 ชั่วโมง.. ฟองขึ้นเต็มไปหมด


หลักสูตรที่สอง
เรื่องการปรับปรุงบำรุงดินโดยชีววิธี ทางวิทยากรของมูลนิธิข้าวขวัญกล่าวว่า น้ำหมักจุลินทรีย์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในทุกวันนี้ ทำมาจากเชื้อจุลินทรีย์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ดังนั้นหากจะทำน้ำหมักจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับประเทศไทยแล้ว ก็จะต้องไปเก็บเอาเชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ที่กำลังย่อยเศษไม้ให้ผุ มาจากป่าในประเทศไทย อย่างเช่น ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก เป็นจุลินทรีย์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อน และสามารถย่อยสลายอินทรียวัตถุได้อย่างรวดเร็ว จุลินทรีย์เหล่านี้ มักจะเกาะตามเปลือกไม้ เศษไม้ ตามดิน เป็นไยขุยๆ สีขาว  เมื่อเก็บมาแล้ว ก็นำมาคลุกกับใบไผ่แห้ง ใส่รำข้าว ใส่กากน้ำตาล แล้วใส่ถังพลาสติกใบใหญ่ เติมน้ำลงไป

วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมทดลองทำในช่วงบ่าย พอตอนเช้าวันถัดมา หลายคนไปดูแล้ว พบว่า มีฟองขึ้นมามากมายเต็มไปหมดในถังหมัก ในช่วงเวลาประมาณ 10 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งแสดงว่าจุลินทรีย์ที่นำมาใช้นี้ แรงมากๆ 
น้ำหมักจุลินทรีย์ที่ได้มานี้ ให้เทลงนาข้าวในช่วงแรกของการเตรียมแปลง หลังจากไถกลบฟางแล้ว และเอาน้ำเข้านา จุลินทรีย์ในน้ำหมักจะทำหน้าที่ย่อยสลายฟางให้กลายเป็นปุ๋ยอย่างรวดเร็ว ให้กับต้นข้าวที่จะปักดำต่อไป 

ผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว


หลักสูตรที่สาม
การพัฒนาพันธุ์ข้าว วิทยากรเอาข้าวเปลือกพันธุ์ดี มากะเทาะเปลือกออกให้เหลือข้าวกล้อง แล้วเอามาคัดทีละเม็ด โดยใช้แว่นขยาย เลือกเอาเมล็ดที่สมบูรณ์ ไม่เป็นท้องไข่ ท้องปลาซิว ไม่เบี้ยว เมล็ดเต่ง ใส มันวาว วิทยากรบอกว่าการคัดเมล็ดข้าวนั้น ก็คล้ายกับคัดเลือกนางงามนั่นเอง คือต้องคัดให้ได้ดีที่สุด สวยที่สุด แข็งแรงที่สุด ทนโรค ทนแมลง และไม่กินปุ๋ยเคมี

จากนั้นเมื่อได้เมล็ดข้าวที่คัดได้แล้วไปเพาะในกระถาง โดยต้องระวังนกและหนูจะมากินเมล็ดข้าว  เมื่อข้าวที่เพาะเติบโตขึ้นมาจนออกรวงแล้ว ก็จะเลือกเอาเมล็ดข้าวจากต้นที่งามที่สุด แข็งแรงที่สุด ไปคัดแบบเดิมอีก 2 รอบ รวมเป็น 3 รอบ คือคัดต้นแต่รุ่นแม่ รุ่นลูก แล้วก็รุ่นหลาน ระหว่างนี้ ไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ในที่สุดก็จะได้พันธุ์ข้าวที่แข็งแรงทนทานโรคแมลง ไม่กินปุ๋ยเคมี

ซึ่งทางมูลนิธิข้าวขวัญ ยืนยันว่า หากทำตามที่อบรมแล้วจะได้ผลดีมาก โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก  เพียงแต่จะต้องทำนาดำ ไม่เผาฟาง และใส่น้ำหมักชีวภาพกับปุ๋ยอินทรีย์ในนาข้าว เฉพาะในช่วงแรกเท่านั้น ระยะต่อมาก็ไม่ต้องใส่อะไรอีกเลย ถ้าทำตามวิธีนี้แล้ว เวลาทำนาก็จะได้ข้าวมากขึ้น จากที่ทำนากันตามปกติ ได้ข้าวไร่ละประมาณ 60-70 ถัง หรืออาจจะน้อยกว่านั้น แต่ที่มูลนิธิข้าวขวัญบอกว่า ถ้าทำตามเทคนิควิธีนี้แล้ว อย่างธรรมดาๆ เลย ก็จะได้ข้าวอยู่ที่ 100 ถังต่อไร่ !!!แล้วถ้าคัดพันธุ์ให้ดีๆ แล้ว ก็จะสามารถทำได้ 160 ถังต่อไร่ !!!

และต้องไม่ลืมว่า การไม่ฉีดยาฆ่าแมลง ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ไม่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์นั้น จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการทำนาได้ไปอีกมาก ทีนี้พอทำนาแล้วก็จะได้กำไร สามารถปลดหนี้สินได้
 
Copyright@ 2006 Bangkok Forum
บางกอกฟอรั่ม เลขที่ 104, 106 ถ.แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร. 02-228-1362-3 โทรสาร 02-228-1362 หรือ www.bangkokforum.net หรือ [email protected]