“ถ้าตอนนี้กระดาษ A4 ที่ใช้ในโรงเรียนหมดลง ก็จะต้องใช้เงินงบประมาณเป็นจำนวน 1,500 บาทที่จะซื้อ
กระดาษ 1 รีมมาใช้” อาจารย์บัญชา แสงไชยศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาะปอ เล่าปัญหาของโรงเรียนให้ฟัง
“เพราะว่าที่นี่อยู่ไกลจากเมืองกระบี่มาก รวมค่ารถ ค่าเรือ ค่าน้ำมันที่จะเดินทางไปซื้อกระดาษแล้ว
ก็จะใช้เงินประมาณนี้ครับ”
การเดินทางในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การได้มีโอกาสมาเยือนเกาะปอของเจ้าหน้าที่บางกอกฟอรั่ม 3 คน
ที่ติดสอยห้อยตาม ผศ.ดร.โอภาส ปัญญา และ ดร.โสฬส ศิริไสย์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ที่เข้ามาประเมินโครงการ
ของ UNDP ที่เกาะปอในช่วงเดือนพฤษภาคม 2550 และได้พบว่าคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในอาคารโรงเรียน
ถูกฟ้าผ่าเสียหายใช้การไม่ได้เลยแม้แต่เครื่องเดียว ทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของครูในโรงเรียน
และการพัฒนาการศึกษาของเด็กบนเกาะ ทำให้ทีมงานบางกอกฟอรั่มคิดว่าน่าจะทำอะไรสักอย่างเท่าที่ทำได้
และนั่นได้นำไปสู่การประสานงานกับชมรมกรุงไทยอาสา ของธนาคารกรุงไทย ที่มีใจรักที่จะทำกิจกรรม
อาสาสมัครอยู่แล้ว ทำให้โครงการกิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นมาได้ในที่สุด
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาะปอ ต้อนรับพวกเราเมื่อเดินทางขึ้นมาถึงโรงเรียนบ้านเกาะปอในเวลาบ่ายโมงครึ่ง
ด้วยอาหารมื้อเที่ยงที่เป็นอาหารทะเลสดมากๆ จากทะเลรอบเกาะปอนั่นเอง ระหว่างการเดินทางมาที่เกาะปอ
อาสาสมัครบางคนได้พบเรื่องราวของเกาะปอที่ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 50
ในบทความชิ้นนั้นได้กล่าวเอาไว้ว่า สัตว์น้ำในบริเวณรอบๆ เกาะ ได้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหลังจากที่ชาวบ้าน
ช่วยกันดูแลไม่ให้เรือประมงพาณิชย์ประเภทอวนลาก เข้ามาทำลายทรัพยากรทางทะเล ตลอดจนมีการกำหนดกติกา
ร่วมกันของชาวบ้านบนเกาะในการจับสัตว์น้ำ เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เราเห็นบนโต๊ะอาหารมื้อเที่ยงนั้น ทำให้รู้ได้ว่า
ในความเป็นจริงนั้น ไม่ได้เกินเลยไปจากที่นักข่าวได้เขียนเอาไว้แม้แต่น้อย
หลังอิ่มอร่อยกับอาหารมื้อเที่ยงแล้ว ทีมงานอาสาสมัครได้ติดตั้งคอมพิวเตอร์มือสองสภาพดี จำนวน 3 เครื่อง
ที่ได้รับบริจาคมาจากธนาคารกรุงไทย ทดแทนเดิมที่ชำรุดเสียหายทั้งหมด ทีมงานใช้เวลาไม่นานนัก
ก็เสร็จเรียบร้อย