“คือคนหนองจอกเขาเรียกว่าดื้อตาใส จริง ๆ แล้วเป็นอย่างนั้น เรื่องของการทำสารเคมีประหยัดได้ปีละหลายตังค์ คนทำนาแต่ละครั้ง เป็นเงินหลายหมื่นด้วย เขาก็ไม่เชื่อ เขายังยึดติดว่าถ้าไม่ฉีดยาฆ่าแมลงแล้วจะไม่ได้ข้าว ถ้าเราไม่ฉีดข้าว เราจะไม่ได้เกี่ยว ผมได้ทำแล้ว ผมไม่ได้ฉีด ทำไมผมได้เกี่ยว เขาก็ไม่เชื่อ คือยึดติดอยู่กับอย่างเดิม ๆ ทุกวันนี้ไปดูได้” (คุณโนรี แพฝึกฝน)
ลุงประเสริฐได้เสนอแนวคิดไว้ว่า ในการทำนาข้าวอินทรีย์นั้นต้องทำแบบมืออาชีพ เอาจริง และมีจริยธรรม อย่างเช่นการปราบวัชพืช และพันธุ์ข้าวชนิดอื่นที่ปะปนมา โดยการถอน โดยมีตัวอย่างคือชาวไทยเชื้อสายมอญที่ทำกันอยู่
“ หญ้าทั้งหมดก็ดี ข้าวปนก็ดี ทั้งหมดมันกลัวคน ลงไปถอนเลย ถ้าคนลงไปเดินรอบๆ คันนา หญ้ามันจะหนีไปอยู่กลางนา แต่ถ้าคนโดดลงไปลุยในนา มันขึ้นไปอยู่บนคันนา ล้มนอนอยู่บนคันนา อันนี้เป็นเรื่องจริงนะฮะ เอาอย่างนี้เลย ขับรถไปคลองสิบสี่ตรงบ้านผม พอถึงเขตคนไทย คนมุสลิมเนี่ย หญ้าจะพรึ่บ พอพ้นเขต ไปถึงเขตมอญแล้ว หญ้าต้นหนึ่งไม่มี มอญอยู่ในนาตั้งแต่เช้า กลางวันพักเที่ยง เย็น มอญอยู่ในนายันมืด ต้นเดียวก็ไม่มี” (ลุงประเสริฐ สุขถาวร)
“ข้าวตัวไหนปนสักต้น ไม่ได้.. เอาออกให้หมด เอาไว้..มันแพร่เชื้อทำให้กระบวนการทำข้าวอินทรีย์เป็นข้าวที่ปลอมปน มันก็เสียหายอีก ยืนยันว่าเรารับรองคุณภาพว่าเป็นข้าวชนิดนี้จริง ที่แท้แล้วมีข้าวยี่ห้ออื่นมาปนด้วยไม่ได้ ตรงนี้มันเป็นของเรื่องจริยธรรมที่จะทำงานตรงนี้ให้ได้ มันต้องเอาตรงนี้มาใส่ด้วย” (ลุงประเสริฐ สุขถาวร) |