หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ร่วมค่ายทุกคนนั่งล้อมวงกันอีกครั้ง พี่แก้วเริ่มเล่าเรื่องบ้านดินของกลุ่มรักษ์เขาชะเมา การทำบ้านดินทำให้เกิดการเรียนรู้เพื่อค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับการสร้างบ้าน ทั้งการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสร้างบ้านดิน การขึ้นโครงสร้างของบ้าน การทำสีที่สดใสของบ้าน นอกจากนั้นยังมีเรื่องจิตอาสาของกลุ่มคนต่างๆที่เข้ามาร่วมกันทำบ้านดิน การทำงานที่เสียสละ มิตรภาพในการทำงาน และที่สำคัญคือเรื่องการได้ทบทวนความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงการได้สัมผัสถึงความละเอียดอ่อนในการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านี้ถือเป็นผลผลิตของการทำงานร่วมกัน การได้เรียนรู้ถึงประสบการณ์และวิธีการทำงานที่เป็นธรรมชาติ
มีวิธีการสร้างบ้านดินอยู่หลายแบบ แต่ที่กลุ่มรักษ์เขาชะเมาใช้จะเป็นแบบอัดบล็อกอิฐดินและแบบปั้นมีโครงไม้ ซึ่งวิธีการสร้างจะแตกต่างกันออกไป กิจกรรมสร้างห้องสมุดในครั้งนี้จะใช้วิธีการอัดบล็อกอิฐดิน โดยให้อาสาสมัครได้เรียนรู้การทำก้อนอิฐดินที่หนักถึง 18 กิโลกรัม จากดินเหนียวที่ผสมด้วยแกลบ ทรายและน้ำ อัดในบล็อกไม้และตากแดดให้แห้งรอการก่อฐานบ้านดินในวันต่อไป
เมื่อได้แลกเปลี่ยนถึงประสบการณ์การทำบ้านดิน และได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการทำบ้านดินในรูปแบบต่างๆ อาสาสมัครก็เริ่มลงสู่กิจกรรม การแบ่งงานของอาสาสมัครเป็นไปตามความสมัครใจ อาสาสมัครคนไหนอยากจะทำอะไรก็ไปตามกลุ่มงานนั้นโดยไม่มีการบังคับ ซึ่งงานที่จะต้องทำนั้นแบ่งออกเป็น การขนก้อนอิฐดิน การถากก้อนอิฐดิน การก่อฐานบ้านดิน และการเตรียมดินเพื่อมาเป็นตัวประสานก้อนอิฐ เมื่อมีอาสาสมัครคนใดอยากเปลี่ยนไปทำงานอื่นก็จะมีอาสาสมัครคนใหม่เข้ามาแทนที่งานได้อย่างต่อเนื่องและเป็นไปอย่างธรรมชาติ ระหว่างการทำงานก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสอบถามถึงความเหมาะสมในการทำบ้านดิน ทั้งเรื่องลักษณะของดินที่นำไปใช้ประสานก้อนอิฐแต่ละก้อน และการวางก้อนอิฐดินที่เหมาะสมสำหรับการเป็นรากฐานบ้านดิน
ในตอนหัวค่ำของวันแรกนี้เอง พระครูประโชติธรรมาภิรมย์ หรือพระอาจารย์สาย แกนนำสำคัญของกลุ่มรักษ์เขาชะเมา ได้นำชาวจิตอาสาสนทนาธรรมะ เสริมมิติด้านปัญญาให้แต่ละคนได้มองลึกเข้าไปในคุณค่าของตนเอง คุณค่าของการทำงานอาสาสมัครและคุณค่าของการใช้ชีวิตอยู่บนโลก ข้อคิดที่สำคัญอีกประการจากพระอาจารย์สาย คือ การทำงานอาสา เป็นการทำงานแบบไม่หวังผลตอบแทน และเมื่อได้ทำงานอาสาสมัครแล้วให้ภูมิใจในสิ่งที่เราทำ เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าที่สละแล้วซึ่งทุกอย่าง ถ้าเราทำงานด้วยความพอใจหรือการทำด้วยจิตใจอาสาจะถือว่าเป็นสิ่งดีที่สุดที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตของเรา
|