ประเด็นเรื่องความสุขที่หายไปของคนในสังคม ประเทศที่พัฒนานั้น มีการพูดกันมากในระยะ 10 ปีที่ผ่านมานี้
สังคมเป็นปัจเจกมากขึ้น คนมาทำกิจกรรมร่วมกันน้อยลง สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ
พืช อากาศ หลายคน หลายชุมชน อาจจะมีงานหนักขึ้น มีรายได้มากขึ้น แต่ความสุขในการมีชีวิตอยู่กับน้อยลง
ความเลวร้ายต่าง ๆ ที่มนุษย์กระทำต่อกันรุนแรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์ด้วยกันจะทำต่อกันได้ ด้วยเหตุนี้เอง
กลุ่มคนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า บางกอกฟอรั่มจึงเกิดขึ้นเพื่อร่วมกันคิดกับคนในชุมชน ให้ช่วยกันสร้างสภาพที่เรียกว่า
“สุขภาวะ” ให้เกิดขึ้นในสังคมในชุมชนให้ได้
การจัดงานในพื้นที่เขตบางบอนก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์ดังกล่าวผมเองนั้นเคยชม เคยดูสวนมะม่วง
มาหลายสวน เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ประทับใจอยู่สวนหนึ่ง เป็นสวนมะม่วงที่จังหวัดลำปาง อาจพูดได้ว่าเป็นไร่
มะม่วงมากกว่า เพราะไม่ได้ยกร่อง ปลูกเป็นผืนใหญ่ มีบ่อน้ำ มีมะม่วงน้ำดอกไม้กับโชคอนันต์เป็นหลัก
ตัดกิ่งเป็นทรงร่มหรือดอกเห็ด มีมะม่วงขายทั้งปี บริเวณไร่ร่มรื่นมาก เป็นการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ
มีสัตว์เล็ก ๆ อาศัยอยู่ในสวนมากมาย ทราบว่าเจ้าของสวน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ผมยังประทับใจอยู่จนปัจจุบันว่า ถ้าจะทำไร่ทำสวนแล้ว ก็จะทำในรูปแบบนั้นให้ได้ หลายสิบปีผ่านมา
ก็ได้มาพบสวนมะม่วงที่ประทับใจเป็นแหล่งที่ 2 คือ ที่สวนน้อยรักษา อยู่ในพื้นที่เขตบางบอน
กรุงเทพนี่เอง สวนแห่งนี้มีการจัดการที่น่าสนในหลายอย่าง จนอยากจะกล่าวถึงไว้ดังนี้
การยกร่องสวนแบบสวนภาคกลาง เพราะเป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมขังง่าย ต้องมีคันดินล้อม มีท้องร่อง
คันร่องยาวไปทางทิศเหนือใต้ คันร่องขวางตะวัน ถูกต้องตามหลักภูมิศาสตร์ ต้นไม้ได้รับแสงแดดเช้าบ่าย
เท่ากัน หลังร่องสูงเป็นหลังเต่า สูงจากระดับน้ำประมาณ 1.50 – 2 เมตร เป็นระดับที่เหมาะสมกับการ
ปลูกพืชยืนต้นอายุยืนอย่าง ต้นมะม่วงที่มีรากลึก รากไม่แช่น้ำ ด้วยเหตุนี้เอง แม้จะเป็นมะม่วงที่ปลูกมามาก
กว่า 20 ปี ก็ยังดูงอกงามสดสวย ไม่มีอาการใบไหม้ มีการตัดแต่งกิ่งแบบทรงร่ม กลางพุ่มโปร่ง โรคแมลง
มีน้อยมาก แถมมีระยะห่างระหว่างร่องสวนอีกไม่น้อยกว่า 2-3 เมตร ยิ่งทำให้โปร่งมากขึ้น ด้วยมีต้นมะม่วง
ขวางตะวัน ท้องร่องสวนจึงร่มทั้งเช้าบ่าย เหมาะที่จะพายเรือในร่องสวนอย่างยิ่ง
|