วันที่ 29-30 กันยายน 2550 เราไปขายหนังสือกันในงานรวมพลคนสร้างสรรค์สังคม ของกระทรวงพัฒนาสังคม
และสวัสดิการ ที่เมืองทองธานี ในครั้งนี้.. เช่นเคย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพียงแต่ใช้แรงแบกลังหนังสือที่ไปติดต่อ
รับจากสำนักพิมพ์ 2-3 แห่ง และไปนั่งตากแอร์หนาวๆขายหนังสืออยู่ 2 วัน และเช่นเคย.. เราเน้นที่การแนะนำ
โครงการสนับสนุนการก่อตั้งกองทุนสุขภาวะกรุงเทพ มากกว่าการขายหนังสืออยู่แล้ว

หนังสือเล่มเขียวชื่อ “กองทุนสุขภาวะ กองทุนปรับทุกข์ปันสุข”
ที่เป็นหนังสือถอดบทเรียนจากการทำงานตามโครงการฯ ที่เราเพิ่งจัดพิมพ์ออกมาได้ไม่นาน ถูกแจกจ่าย
ให้กับผู้สนใจไปจำนวนหนึ่ง พร้อมกับการบอกเล่าถึงงานพัฒนาที่เราลงแรงรวมพลังกับผู้คนในพื้นที่เขตทวีวัฒนา
ของกรุงเทพมหานคร ส่วนยอดขาย กำไรจะได้ หรือจะขาดทุนเท่าไรนั้น.. ช่างเถิด ขอให้คนทำงานเพื่อสังคม
ได้อ่านหนังสือที่ให้แง่คิด มุมมองดีๆ ก็พอแล้ว

เราสังเกตเห็นว่า คนที่มาซื้อส่วนใหญ่เป็นคนทำงานทางด้านการพัฒนาสังคม แน่ล่ะ.. คนที่มางานนี้ก็คือคน
ที่ทำงานกันอยู่ตามชุมชน ตามหัวเมือง ตามชนบททั่วประเทศไทยอยู่แล้วนี่นา บางคนไม่สนใจจะต่อราคา
ด้วยซ้ำไป เมื่อรู้ว่ากำไรที่เราได้จากการขายจะถูกเอาไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม แต่เอาน่ะ..
เราก็แถมหนังสือกองทุนสุขภาวะ กับโปสการ์ดที่เราทำเองให้อยู่ดี

ในฐานะคนทำงานเกี่ยวข้องกับทางด้านสื่อ เรารู้กันว่า ถ้ามีคำที่มันขายๆ อย่างคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพ ที่มันเกิดขึ้นจริงๆ
ได้ยากเย็น อยู่ในสื่อที่ถูกผลิตออกมา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรือบทความในเว็ปไซต์ สื่อที่ถูกผลิตออกมาชิ้นนั้น
ก็จะขายได้ ผู้คนก็จะให้ความสนใจ สื่อมวลชนก็จะมารุมตอม ส่วนคำว่า “กองทุน” กับคำว่า “สุขภาวะ” นั้น
จะขายได้หรือเปล่า ก็คงต้องรอให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์กันต่อไปแต่ถ้าพิจารณาองค์ประกอบของคำว่า
เศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ก็จะพบว่ามีคำว่า “ความรู้” อยู่ในนั้นด้วยแน่นอน..การอ่านหนังสือก็คือ
การเพิ่มความรู้ให้กับผู้อ่าน เพิ่มอาหารให้กับสมองนั่นเองเอาสิ.. เขียนจนได้ คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงน่ะ
เอาเป็นว่า ใครอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ไปอ่าน ก็ลองติดต่อมาที่เราก็แล้วกัน..